ฟังอัลกุรอาน | บทความ | ไฟล์เสียง | สไลด์ | วีดีโอ | หนังสือ | ตอบปัญหา | soundcloud

-----------------------------------------------------------

وَاذْكُرُوا نِعْمَةَ اللَّـهِ عَلَيْكُمْ وَمِيثَاقَهُ الَّذِي وَاثَقَكُم بِهِ إِذْ قُلْتُمْ سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا ۖ وَاتَّقُوا اللَّـهَ ۚ إِنَّ اللَّـهَ عَلِيمٌ بِذَاتِ الصُّدُورِ ﴿٧﴾ ?

5:7. และจงรำลึกถึงความกรุณาเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้า และสัญญาของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำมันไว้แก่พวกเจ้า ขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า พวกเราได้ยินแล้ว และพวกเราเชื่อฟังแล้ว และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในทรวงอก
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัฟซีร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัฟซีร แสดงบทความทั้งหมด

ตัฟซีร ซูเราะฮฺอัลอันฟาล 12 (อายะฮฺ 25-26) | 25/8/63

- คุณค่าของการศึกษาอัลกุรอาน

وَاتَّقُوا فِتْنَةً لَّا تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُوا مِنكُمْ خَاصَّةً ۖ وَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّـهَ شَدِيدُ الْعِقَابِ ﴿٢٥﴾

8:25 และพวกเจ้าจงระวังการลงโทษ ซึ่งมันจะไม่ประสบกับบรรดาผู้อธรรมในหมู่พวกเจ้าโดยเฉพาะเท่านั้น และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้น เป็นผู้รุนแรงในการลงโทษ

ตัฟซีร ซูเราะฮฺอัลอันฟาล 11 (อายะฮฺ 24) | 18/8/63

  يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اسْتَجِيبُوا لِلَّـهِ وَلِلرَّسُولِ إِذَا دَعَاكُمْ لِمَا يُحْيِيكُمْ ۖ وَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّـهَ يَحُولُ بَيْنَ الْمَرْءِ وَقَلْبِهِ وَأَنَّهُ إِلَيْهِ تُحْشَرُونَ ﴿٢٤﴾

8:24 บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงตอบรับอัลลอฮฺและรอซูลเถิด เมื่อ*เขา*ท่านได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวาขึ้น และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นจะทรงกั้นระหว่างบุคคลกับหัวใจของเขา และแท้จริงยังพระองค์นั้นพวกเจ้าจะถูกนำกลับไปชุมนุม

ตัฟซีรซูเราะตุนนูร


ซูเราะตุนนูร - ซูเราะตุนนูร มีศาสนบัญญัติที่เกี่ยวกับมารยาท บุคคลโดยส่วนตัว ความเชื่อในอัลลอฮฺ ความตระหนักความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้าของเรา และมีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับครอบครัว การแต่งกาย โดยเฉพาะสุภาพสตรี การขออนุญาตเข้าบ้าน การที่ผู้ชายกับผู้หญิงจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไร จะต้องมีความเป็นอยู่อย่างไร บทลงโทษเรื่องการทำซินา การใส่ร้าย เหล่านี้มีระบุในซูเราะห์นี้ ซึ่งเป็นซูเราะฮฺที่มีคุณค่าสำหรับครอบครัว



ตัฟซีรซูเราะตุนนิซาอฺ ครั้งที่ 92 (อายะฮฺสุดท้าย 176)


เคาะวาตีมอัลบะเกาะเราะฮฺ

ตัฟซีรซูเราะตุลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺ 285-6
 
آمَنَ الرَّسُولُ بِمَا أُنْزِلَ إِلَيْهِ مِنْ رَبِّهِ وَالْمُؤْمِنُونَ كُلٌّ آَمَنَ بِاللَّهِ وَمَلَائِكَتِهِ وَكُتُبِهِ وَرُسُلِهِ لَا نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍ مِنْ رُسُلِهِ وَقَالُوا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا غُفْرَانَكَ رَبَّنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ ﴿285﴾

285. ร่อซูลนั้น(นะบีมุฮัมมัด) ได้ศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เขาจากพระเจ้าของเขา และมุอฺมินทั้งหลายก็ศรัทธาด้วย ทุกคนศรัทธาต่ออัลลอฮฺและมลาอิกะฮฺของพระองค์ และบรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดาร่อซูลของพระองค์ (พวกเขากล่าวว่า) เราจะไม่แยกระหว่างท่านหนึ่งท่านใดจากบรรดาร่อซูลของพระองค์  และพวกเขาได้กล่าวว่า   เราได้ยินแล้ว และได้ปฏิบัติตามแล้วการอภัยโทษจากพระองค์เท่านั้นที่พวกเราปรารถนา โอ้พระเจ้าของพวกเรา! และยังพระองค์นั้นคือการกลับไป

ตัฟซีรอายะฮฺ 185 ซูเราะตุลบะเกาะเราะฮฺ

﴿ شَهْرُ رَمَضَانَ الَّذِيْ أُنْزِلَ فِيْهِ القُرْآنُ هُدَىً لِلنَّاسِ وَبَيِّنَاتٍ مِنَ الهُدَى وَالفُرْقَان ﴾ البقرة 185

“เดือนรอมฎอนนั้นเป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำสำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเกี่ยวกับสิ่งที่จำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ” (อัลบะเกาะเราะฮฺ 185)

เวลาเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และพระองค์ทรงมีเหตุผลในการกำหนดกิจกรรมในเวลานั้นต่อบรรดาบ่าวของพระองค์ เช่น การกำหนดเวลาของการละหมาดหรือเวลาของการถือศีลอด ทั้งนี้ก็ยังมีเหตุผลในการกำหนดความประเสริฐของเวลาบางเวลา ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า

﴿وَرَبُّكَ يَخْلُقُ مَا يَشَاءُ وَيَخْتَارُ﴾ القصص 68
“และพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงนิรมิตสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงคัดเลือก(ตามพระประสงค์ของพระองค์)” (อัลกอศ็อศ 68)

ในอายะฮฺที่ 185 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺนี้ มีการกล่าวถึงเหตุผลที่เดือนรอมฎอนมีความประเสริฐยิ่ง อันเป็นบทบัญญัติที่อยู่ในทำนองเดียวกับบทบัญญัติที่กล่าวถึงภาระหน้าที่ของผู้ศรัทธาในการถือศีลอดและรายละเอียดของวิธีปฏิบัติการถือศีลอด จึงเป็นเหตุผลที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติการถือศีลอดนั้นย่อมมีความตระหนักในการปฏิบัติของตน และมีความภูมิใจในความประเสริฐของเวลาที่อัลลอฮฺทรงช่วยเหลือให้มีโอกาสใช้ตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺ

เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมา ซึ่งอัลกุรอานถูกนำมาโดยท่านญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ยังฟากฟ้าชั้นแรกทั้งหมด และได้นำบรรดาอายาตต่างๆของอัลกุรอานตามกิจต่างๆ อัลกุรอานถูกประทานมายังชั้นฟ้าแรกในเดือนรอมฎอนและได้เริ่มถูกนำมายังโลกนี้ถึงท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในเดือนรอมฎอนเช่นเดียวกัน ซึ่งในอัลกุรอานมีการระบุช่วงเวลาด้วย ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า

﴿ إِنَّا أَنْزَلْنَهُ فِيْ لَيْلَةِ القَدْرِ ﴾ القدر 1
“เราได้ประทานมัน(อัลกุรอาน)ในคืนอัลก็อดร” (อัลก็อดรฺ 1)

ซึ่งตามบทบัญญัติต่างๆที่เกี่ยวกับคืนอัลก็อดรนั้นจะทราบดีว่ามันอยู่ในเดือนรอมฎอน

การที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาในเดือนรอมฎอน เป็นการชี้ถึงความประเสริฐของเดือนรอมฎอน จึงทำให้เดือนรอมฎอนนั้นเป็นเดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์และความจำเริญ ดังนั้นเราควรศึกษาว่าความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดในเดือนรอมฎอนได้มาอย่างไร และมีบทเรียนแก่พวกเราตรงไหน

ผู้ศรัทธาตระหนักดีว่าพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมั่งคั่ง มิต้องการมนุษย์ แต่มนุษย์ต่างหากที่ต้องการพระองค์ และผู้ศรัทธาย่อมรู้ว่ามนุษย์นั้นมีการละเมิดและท้าทายพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร และย่อมรู้ด้วยว่าพระองค์ทรงเมตตาบรรดามนุษย์อย่างไร นี่คือภาพที่ต้องกล่าวถึงเมื่อจะพูดถึงอัลกุรอานที่ถูกประทานลงมา ซึ่งเป็นแบบอย่างแห่งพระเมตตาของอัลลอฮฺที่เราต้องระลึกอยู่เสมอ เพราะการที่เรามีอัลกุรอานอยู่มาเป็นเวลานับพันปี ทำให้มีความเคยชินและละเลยความสำคัญของอัลกุรอาน แต่ถ้าหากมนุษยชาติได้ตระหนักว่าคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมิได้ถูกประทานลงมาเพื่อเป็นประโยชน์กับพระผู้เป็นเจ้า แต่หากเป็นประโยชน์กับมนุษยชาติทั้งมวล ทั้งๆที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ถูกปฏิเสธและถูกต่อต้านจากผู้ปฏิเสธศรัทธาและผู้ตั้งภาคี แต่ก็ยังทรงเมตตามนุษยชาติทั้งหลายและให้มีการติดต่อระหว่างฟากฟ้ากับโลกนี้ เพื่อให้มนุษยชาติรำลึกถึงที่มาของพวกเขา และตระหนักในแหล่งสัจธรรม

และเนื่องจากว่าอัลกุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติทั้งหลาย เราก็ต้องศึกษาว่าประโยชน์ของอัลกุรอานนั้นอยู่ตรงไหน ในสังคมปัจจุบันมีความคลาดเคลื่อนในความเข้าใจต่ออัลกุรอานว่าเป็นคัมภีร์ชนิดที่มีอิทธิพลด้านความศิริมงคล จึงถูกนำมาใช้ในทำนองนี้อย่างที่เห็นกัน อัลกุรอานจะถูกใช้เป็นพิธีในกิจกรรมต่างๆ หรือเป็นส่วนที่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่อัลกุรอานไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะส่วนสำคัญของอัลกุรอานคืออำนาจในพระบัญชาของพระองค์ต่อการปกครองแผ่นดินและนำชีวิตของมนุษยชาติไปสู่สัจธรรม และนั่นคือเนื้อหาอันชัดแจ้งที่ถูกระบุในอายะฮฺ 185 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ซึ่งนับได้ว่าเป็นวัตถุประสงค์ในการประทานอัลกุรอานลงมา อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

أُنْزِلَ فِيْهِ القُرْآنُ هُدَىً لِلنَّاسِ
“ถูกประทานลงมาเพื่อเป็นทางนำสำหรับมนุษยชาติ”

การที่อัลกุรอานเป็นฮิดายะฮฺ(ทางนำ) หมายถึง มีอำนาจในการบริหารกิจกรรมในชีวิตของมนุษย์ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺผู้ทรงสัจธรรม และนั่นคือรูปแบบชีวิตของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และสาวกของท่าน ซึ่งอัลกุรอานจะครองเนื้อที่ทุกส่วนในชีวิตของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวกับครอบครัว เกี่ยวกับบุคลิกภาพ อุปนิสัย การทำธุรกิจ การปกครอง หรืออื่นๆ จะเห็นว่าพวกเขาเหล่านั้นถือว่าอัลกุรอานเป็นแนวทางสู่ความถูกต้อง และเป็นทางออกสำหรับการแก้ไขปัญหาทุกปัญหา และเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผู้ศรัทธาที่ต้องการทางรอดในโลกนี้และในโลกหน้า

พี่น้องลองศึกษาชีวประวัติของท่านนบีและศ่อฮาบะฮฺของท่าน ถ้าหากพวกเขาได้มีปัญหาหรือมีกิจกรรมใดๆ เขาจะยึดอะไรเป็นเกณฑ์ และอะไรที่จะมีอิทธิพลสูงที่สุดในการปกครอง คำตอบที่ไม่มีความขัดแย้งใดๆระหว่างนักปราชญ์คือ อัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานเป็นธรรมนูญแห่งชีวิต หมายถึงเป็นกฎหมายเป็นข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงเทียบได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายแม่ที่จะครองระบอบของสังคมในทุกส่วนที่เกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ แต่เนื่องจากบรรดามุสลิมีนปัจจุบันห่างไกลจากระบอบการปกครองของอิสลาม จึงไม่มีใครเรียกอัลกุรอานว่าเป็น “รัฐธรรมนูญ” เพราะรัฐอิสลามได้สูญหายไปจากโลกนี้เมื่อระบอบคิลาฟะฮฺถูกยกเลิกด้วยอำนาจจักรวรรดินิยมที่เคยประกาศว่า อิทธิพลของมุสลิมในโลกนี้ขึ้นอยู่กับอัลกุรอาน เมื่ออัลกุรอานสูญหายจากชีวิตของมุสลิม นั่นคือจุดสูญหายของอำนาจของมุสลิมเช่นกัน ก็ปรากฏเช่นนั้นจริงๆ เพราะรัฐอิสลามหมายถึงศูนย์การปกครองโลกมุสลิมที่จะใช้อัลกุรอานเป็นรัฐธรรมนูญ เมื่อถูกยกเลิกและไม่มีใครอยากฟื้นฟูระบอบนี้ กฎหมายอัลอิสลามก็จะไม่มีอำนาจสูงส่งในโลกนี้ เพราะไม่มีใครที่จะเป็นผู้ปกป้องเช่นในสมัยที่มีระบบคิลาฟะฮฺ ทั้งนี้ก็มิใช่หมายรวมว่าต้องมีรัฐจึงจะใช้อัลกุรอานเป็นกฎหมายบังคับ แต่หมายถึงอัลกุรอานต้องมีอำนาจในชีวิตของมุสลิมทุกคนด้วยตัวเอง หมายถึง ทุกคนต้องรับผิดชอบนำอัลกุรอานมาเป็นกฎหมายบังคับในชีวิตของตน โดยไม่ต้องคอยให้มีรัฐบาลจัดระเบียบการปฏิบัติกฎหมายอิสลาม เพราะอัลกุรอานเป็นทางนำในเนื้อหาของโองการและพระบัญญัติ โดยที่ทุกคนสามารถศึกษา ทำความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้

จากนี้ต้องมีคำถามเกิดในใจของผู้ศรัทธาทุกๆคน ว่าอัลกุรอานเป็นทางนำในชีวิตของเราหรือไม่ คำถามนี้ต้องได้คำตอบจากผู้ที่ใช้อัลกุรอานเป็นลายศิลปะประดับสุเหร่าหรือบ้านเท่านั้น พอเข้ามัสยิดหรือบ้านของตัวเองก็จะพบอัลกุรอานเป็นผนังทุกด้านอย่างสง่างาม และต้องถามผู้ที่ใช้อัลกุรอานในพิธีสมรสหรืออ่านอัลกุรอานขณะมีคนตายเท่านั้น ซึ่งจะพบว่าการอ่านอัลกุรอานในขณะนั้นมีความไพเราะอย่างน่าชื่นชม แต่หามีประโยชน์เช่นที่กล่าวข้างต้นไม่ ซึ่งเป็นสิ่งประหลาดอย่างยิ่งที่เราได้เห็นคนละหมาดอ่านบทบัญญัติที่ห้ามกินริบา แต่พอออกนอกมัสยิดเสมือนตั้งใจทำลายสิ่งที่เพิ่งอ่านในการละหมาด นั่นเป็นภาพที่เห็นประจำในสังคมมุสลิมปัจจุบัน อัลกุรอานกลายเป็นสำนวนอ่านอย่างเดียว แต่เนื้อหาของสำนวนแทบไม่มีความสำคัญในชีวิตของมุสลิม ดังนั้นสังคมมุสลิมมีหน้าที่ทบทวนบทบาทอัลกุรอานและอำนาจของบทบัญญัติของอัลลอฮฺ โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเทศกาลที่ถูกผูกพันไว้กับการประทานอัลกุรอานลงมา อันเป็นจุดเด่นของเดือนรอมฎอนที่ทุกคนทราบดี สังคมมุสลิมรณรงค์การอ่านอัลกุรอานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงละหมาดตะรอเวียะหฺ ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันในเดือนรอมฎอน แต่เราต้องการให้การทบทวนอัลกุรอานนี้มีประสิทธิภาพด้วยการทบทวนตำแหน่งและคุณค่าของอัลกุรอานในความเชื่อของเรา

เมื่อตรวจสอบสภาพสังคมมุสลิมจะพบว่าสิ่งที่นำหน้าและยึดอันดับแรกในบรรดาจุดประสงค์ของผู้คน คือเรื่องรายได้ ถัดมาก็คือการแสวงหาความสุขรวมถึงความบันเทิงและความสนุกสนาน ผลสรุปนี้ได้มาจากการตรวจสอบจำนวนสถาบันที่มีกิจกรรมในสังคม ซึ่งบริษัทร้านค้าและห้างหุ้นส่วนจะเป็นสถาบันที่มีจำนวนมากที่สุด ถัดมาก็คือบรรดาสถานที่อำนวยความบันเทิงและสนุกสนานแก่ประชาชน นั่นเป็นแง่คิดที่จะทำให้เราต้องพิจารณาสภาพความเป็นมุสลิมของเรา ด้วยการพิจารณาเนื้อที่ของอัลกุรอานในชีวิตของเรา การอ่าน ท่องจำ หรือฟังอัลกุรอานนั้น ไม่ใช่เครื่องวัดที่จะบ่งชี้ถึงความศรัทธาที่แท้จริงต่ออัลกุรอาน หากอัลกุรอานไม่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา

ในอายะฮฺ 185 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสถึงหลักฐานอันชัดเจนซึ่งมีอยู่ในอัลกุรอาน สำหรับทุกประเด็นในชีวิตของมนุษยชาติ ทุกคำถามย่อมมีคำตอบ และทุกปัญหาย่อมมีการแก้ไขในอัลกุรอาน ปัญหาครอบครัว การปกครองแผ่นดิน หรือปัญหาเศรษฐกิจ จะพบแนวทางแก้ไขในอัลกุรอานอย่างแน่นอน แต่มนุษย์ที่ไม่ตระหนักและไม่ยอมเชื่อในอำนาจของอัลกุรอาน มักจะห่างไกลจากโอกาสเข้าใจอัลกุรอาน จึงทำให้ผู้นั้นไม่สัมผัสความสำคัญของอัลกุรอาน และผลสุดท้ายอัลกุรอานจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายในชีวิตของเขา

อนึ่ง อัลกุรอานเป็นบรรทัดฐานในการจำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ ซึ่งอายะฮฺนี้ได้กล่าวถึงคำว่า อัลฟุรกอน หมายถึง สิ่งที่จำแนก อัลกุรอานเป็นบรรทัดจำแนกระหว่างทางนำกับทางหลง เพราะพระผู้ทรงบัญญัติอัลกุรอานคือพระผู้ทรงปรารถนาให้มนุษยชาติบรรลุสัจธรรม อันเป็นพระประสงค์ที่จะค้ำประกันพระดำรัสของอัลลอฮฺให้เป็นแนวทางที่ถูกต้องเสมอไป หมายถึง ผู้ใดใช้อัลกุรอานเป็นกฎเกณฑ์ในชีวิตของตน ย่อมมีโอกาสสูงที่จะยึดมั่นในสัจธรรม และผู้ใดที่ไม่ถืออัลกุรอานเป็นบรรทัดฐานในชีวิตของตน ย่อมมีโอกาสสูงที่จะสับสนและหลงผิด ดังนั้นมนุษย์ทุกคนต้องมีบรรทัดฐานที่อ้างถึงพระดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นหลักฐาน และให้อิทธิพลของอัลกุรอานเหนืออิทธิพลของบรรทัดฐานอื่น เช่น สติปัญญา หลักประเพณี หรือความเชื่อที่มีกระแสแรงในสังคม เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีความสับสน ผู้ที่ใช้อัลกุรอานเป็นแนววิเคราะห์และตัดสิน จะประสบความกระจ่างและได้มีผลสัมฤทธิ์ในการแสวงหาความสบายใจต่อปัญหาต่างๆ เพราะการยึดมั่นในอัลกุรอานทำให้ผู้ศรัทธานั้นมีความเชื่อมั่นในขั้นตอนของการวิเคราะห์ปัญหา โดยอัลกุรอานนั้นเป็นสิ่งที่ประกันมิให้หลงผิด

เดือนรอมฎอนทุกปี บรรดาผู้ศรัทธามีหมายนัดกับอัลกุรอาน มิใช่เพียงทบทวนสำนวนหรือความจำ แต่เพื่อทบทวนอำนาจของอัลกุรอาน ซึ่งเป็นความโปรดปรานอันใหญ่หลวงที่ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ฝากไว้กับมนุษยชาติ และเป็นเกียรติยศที่พวกเราจะถูกสอบสวนวันกิยามะฮฺ ว่าได้รักษาและอนุรักษ์เกียรติยศนี้อย่างไร อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสว่า

﴿وَإِنَّهُ لَذِكْرٌ لَكَ وَلِقَوْمِكَ وَسَوْفَ تُسْأَلُوْنَ﴾ الزخرف 44
“และมันเป็นเกียรติสำหรับเจ้าและประชาชาติของเจ้า และพวกเจ้าทั้งหลายจะถูกสอบสวนอย่างแน่นอน” (อัลซุครุฟ 44)

ตัฟซีรอาลิอิมรอน 75-76

بسم الله الرحمن الرحيم

تفسير سورة آل عمران

อธิบายความหมาย ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺ 75-76

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551

ณ มัสญิดบ้านตึกดิน

وَمِنْ أَهْلِ الْكِتَابِ مَنْ إِن تَأْمَنْهُ بِقِنطَارٍ يُؤَدِّهِ إِلَيْكَ وَمِنْهُم مَّنْ إِن تَأْمَنْهُ بِدِينَارٍ لاَّ يُؤَدِّهِ إِلَيْكَ إِلاَّ مَا دُمْتَ عَلَيْهِ قَآئِماً ذَلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُواْ لَيْسَ عَلَيْنَا فِي الأُمِّيِّينَ سَبِيلٌ وَيَقُولُونَ عَلَى اللّهِ الْكَذِبَ وَهُمْ يَعْلَمُونَ ﴿75﴾

75. และจากหมู่ผู้ที่ได้รับคัมภีร์นั้น มีผู้ที่หากเจ้าฝากเขาไว้ซึ่งทรัพย์สมบัติอันมากมาย เขาก็จะคืนมันแก่เจ้า และจากหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่หากเจ้าฝากเขาไว้สักเหรียญทองหนึ่ง เขาก็จะไม่คืนมันแก่เจ้า นอกจากเจ้าจะยืนเฝ้าทวงเขาอยู่เท่านั้น นั่นก็เพราะว่าพวกเขากล่าวว่า ในหมู่ผู้ที่อ่านเขียนไม่เป็นนั้น ไม่มีทางใดที่เป็นโทษแก่เราได้และพวกเขากล่าวความเท็จให้แก่อัลลอฮฺทั้ง ๆ ที่พวกเขารู้กันดีอยู่





الدينار

قَالَ اِبْن أَبِي حَاتِم : حَدَّثَنَا سَعِيد بْن عَمْرو السَّكُونِيّ حَدَّثَنَا بَقِيَّة عَنْ زِيَاد بْن الْهَيْثَم حَدَّثَنِي مَالِك بْن دِينَار قَالَ : إِنَّمَا سُمِّيَ الدِّينَار لِأَنَّهُ دَيْن وَنَار . وَقِيلَ : مَعْنَاهُ مَنْ أَخَذَهُ بِحَقِّهِ فَهُوَ دَيْنه . وَمَنْ أَخَذَهُ بِغَيْرِ حَقّه فَلَهُ النَّار

بعض أهل الكتاب أمناء

روى البخاري عَنْ أَبِي هُرَيْرَة رَضِيَ اللَّه عَنْهُ عَنْ رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ ذَكَرَ رَجُلًا مِنْ بَنِي إِسْرَائِيل سَأَلَ بَعْض بَنِي إِسْرَائِيل أَنْ يُسَلِّفهُ أَلْف دِينَار فَقَالَ : اِئْتِنِي بِالشُّهَدَاءِ أُشْهِدهُمْ فَقَالَ : كَفَى بِاَللَّهِ شَهِيدًا فَقَالَ : اِئْتِنِي بِالْكَفِيلِ قَالَ : كَفَى بِاَللَّهِ كَفِيلًا قَالَ : صَدَقْت فَدَفَعَهَا إِلَيْهِ إِلَى أَجَلٍ مُسَمَّى فَخَرَجَ فِي الْبَحْر فَقَضَى حَاجَته ثُمَّ اِلْتَمَسَ مَرْكَبًا يَرْكَبهَا لِيَقْدَم عَلَيْهِ فِي الْأَجَل الَّذِي أَجَّلَهُ فَلَمْ يَجِد مَرْكَبًا فَأَخَذَ خَشَبَة فَنَقَرَهَا فَأَدْخَلَ فِيهَا أَلْف دِينَار وَصَحِيفَة مِنْهُ إِلَى صَاحِبه ثُمَّ زَجَّجَ مَوْضِعهَا ثُمَّ أَتَى بِهَا إِلَى الْبَحْر فَقَالَ اللَّهُمَّ إِنَّك تَعْلَم أَنَّى اسْتَسْلَفْتُ فُلَانًا أَلْف دِينَار فَسَأَلَنِي شَهِيدًا فَقُلْت كَفَى بِاَللَّهِ شَهِيدًا وَسَأَلَنِي كَفِيلًا فَقُلْت كَفَى بِاَللَّهِ كَفِيلًا فَرَضِيَ بِك وَإِنِّي جَهَدْت أَنْ أَجِد مَرْكَبًا أَبْعَث إِلَيْهِ الَّذِي لَهُ فَلَمْ أَقْدِر وَإِنِّي اِسْتَوْدَعْتُكَهَا فَرَمَى بِهَا فِي الْبَحْر حَتَّى وَلَجَتْ فِيهِ ثُمَّ اِنْصَرَفَ وَهُوَ فِي ذَلِكَ يَلْتَمِس مَرْكَبًا يَخْرُج إِلَى بَلَده فَخَرَجَ الرَّجُل الَّذِي كَانَ سَلَّفَهُ لِيَنْظُرَ لَعَلَّ مَرْكَبًا يَجِيئهُ بِمَالِهِ فَإِذَا بِالْخَشَبَةِ الَّتِي فِيهَا الْمَال فَأَخَذَهَا لِأَهْلِهِ حَطَبًا فَلَمَّا كَسَرَهَا وَجَدَ الْمَال وَالصَّحِيفَة ثُمَّ قَدِمَ الرَّجُل الَّذِي كَانَ تَسَلَّفَ مِنْهُ فَأَتَاهُ بِأَلْفِ دِينَار وَقَالَ : وَاَللَّه مَا زِلْت جَاهِدًا فِي طَلَب مَرْكَب لِآتِيَك بِمَالِك فَمَا وَجَدْت مَرْكَبًا قَبْل الَّذِي أَتَيْت فِيهِ قَالَ : هَلْ كُنْت بَعَثْت إِلَى بِشَيْءٍ ؟ قَالَ : أَلَم أُخْبِرك أَنَّى لَمْ أَجِد مَرْكَبًا قَبْل هَذَا قَالَ : فَإِنَّ اللَّه قَدْ أَدَّى عَنْك الَّذِي بَعَثْت فِي الْخَشَبَة فَانْصَرَفَ بِأَلْفِ دِينَار رَاشِدًا "

" ذَلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُوا لَيْسَ عَلَيْنَا فِي الْأُمِّيِّينَ سَبِيل "

أَيْ إِنَّمَا حَمَلَهُمْ عَلَى جُحُود الْحَقّ أَنَّهُمْ يَقُولُونَ : لَيْسَ عَلَيْنَا فِي دِيننَا حَرَج فِي أَكْل أَمْوَال الْأُمِّيِّينَ وَهُمْ الْعَرَب فَإِنَّ اللَّه قَدْ أَحَلَّهَا لَنَا قَالَ اللَّه تَعَالَى " وَيَقُولُونَ عَلَى اللَّه الْكَذِب وَهُمْ يَعْلَمُونَ " أَيْ وَقَدْ اِخْتَلَقُوا هَذِهِ الْمَقَالَة وَائْتَفَكُوهَا بِهَذِهِ الضَّلَالَة فَإِنَّ اللَّه حَرَّمَ عَلَيْهِمْ أَكْل الْأَمْوَال إِلَّا بِحَقِّهَا وَإِنَّمَا هُمْ قَوْم بُهُتٌ . قَالَ عَبْد الرَّزَّاق أَنْبَأَنَا مَعْمَر عَنْ أَبِي إِسْحَق الْهَمْدَانِيّ عَنْ أَبِي صَعْصَعَة بْن يَزِيد أَنَّ رَجُلًا سَأَلَ اِبْن عَبَّاس فَقَالَ : إِنَّا نُصِيب فِي الْغَزْو مِنْ أَمْوَال أَهْل الذِّمَّة الدَّجَاجَة وَالشَّاة قَالَ اِبْن عَبَّاس : فَتَقُولُونَ مَاذَا ؟ قَالَ : نَقُول لَيْسَ عَلَيْنَا بِذَلِكَ بَأْس قَالَ : هَذَا كَمَا قَالَ أَهْل الْكِتَاب لَيْسَ عَلَيْنَا فِي الْأُمِّيِّينَ سَبِيل إِنَّهُمْ إِذَا أَدَّوْا الْجِزْيَة لَمْ تَحِلَّ لَكُمْ أَمْوَالهمْ إِلَّا بِطِيبِ أَنْفُسهمْ .


بَلَى مَنْ أَوْفَى بِعَهْدِهِ وَاتَّقَى فَإِنَّ اللّهَ يُحِبُّ الْمُتَّقِينَ ﴿76﴾

76. มิใช่นั้นดอก ผู้ใดที่รักษาสัญญาของเขาโดยครบถ้วน และยำเกรง(อัลลอฮฺ) แล้วแน่นอนอัลลอฮฺทรงชอบผู้ที่ยำเกรงทั้งหลาย





" بَلَى مَنْ أَوْفَى بِعَهْدِهِ وَاتَّقَى "

أَيْ لَكِنْ مَنْ أَوْفَى بِعَهْدِهِ وَاتَّقَى مِنْكُمْ يَا أَهْل الْكِتَاب الَّذِي عَاهَدَكُمْ اللَّه عَلَيْهِ مِنْ الْإِيمَان بِمُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا بُعِثَ كَمَا أَخَذَ الْعَهْد وَالْمِيثَاق عَلَى الْأَنْبِيَاء وَأُمَمهمْ بِذَلِكَ وَاتَّقَى مَحَارِم اللَّه وَاتَّبَعَ طَاعَته وَشَرِيعَته الَّتِي بَعَثَ بِهَا خَاتَم رُسُله وَسَيِّدهمْ فَإِنَّ اللَّه يُحِبّ الْمُتَّقِينَ


ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 77-78

بسم الله الرحمن الرحيم

تفسير سورة آل عمران

อธิบายความหมาย ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺ 77-78

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551
ณ มัสญิดบ้านตึกดิน

إِنَّ الَّذِينَ يَشْتَرُونَ بِعَهْدِ اللّهِ وَأَيْمَانِهِمْ ثَمَناً قَلِيلاً أُوْلَـئِكَ لاَ خَلاَقَ لَهُمْ فِي الآخِرَةِ وَلاَ يُكَلِّمُهُمُ اللّهُ وَلاَ يَنظُرُ إِلَيْهِمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلاَ يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ ﴿
77﴾
77. แท้จริงบรรดาผู้ที่นำสัญญาของอัลลอฮฺและการสาบานของพวกเขาไปขายด้วยราคาอันเล็กน้อยนั้น ชนเหล่านี้แหละไม่มีส่วนได้ใด ๆ แก่พวกเขาในปรโลก และอัลลอฮฺจะไม่ทรงพูดแก่พวกเขา และจะไม่ทรงมองดูพวกเขาในวันกิยามะฮฺ และทั้งจะไม่ทำให้พวกเขาสะอาดด้วย และพวกเขาจะได้รับโทษอันเจ็บแสบ




عقوبة اليمين الكاذبة

• الْحَدِيث الْأَوَّل روى الْإِمَام أَحْمَد : أَبِي ذَرّ قَالَ : قَالَ رَسُول اللَّه y " ثَلَاثَة لَا يُكَلِّمهُمْ اللَّه وَلَا يَنْظُر إلَيْهِمْ يَوْم الْقِيَامَة وَلَا يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَاب أَلِيم " قُلْت : يَا رَسُول اللَّه y مَنْ هُمْ ؟ خَسِرُوا وَخَابُوا قَالَ : وَأَعَادَهُ رَسُول اللَّه
y ثَلَاث مَرَّات قَالَ " الْمُسْبِل وَالْمُنْفِق سِلْعَته بِالْحَلِفِ الْكَاذِب وَالْمَنَّان " . وَرَوَاهُ مُسْلِم

• الْحَدِيث الثَّانِي " روى الْإِمَام أَحْمَد عَدِيٍّ ِبْن عَمِيرَة الْكِنْدِيّ قَالَ : خَاصَمَ رَجُل مِنْ كِنْدَة يُقَال لَهُ اِمْرُؤُ الْقِيس بْن عَامِر رَجُلًا مِنْ حَضْرَمَوْت إِلَى رَسُول اللَّه y فِي أَرْض فَقَضَى عَلَى الْحَضْرَمِيّ بِالْبَيِّنَةِ فَلَمْ يَكُنْ لَهُ بَيِّنَة فَقَضَى عَلَى اِمْرِئِ الْقِيس بِالْيَمِينِ فَقَالَ الْحَضْرَمِيّ : أَمْكَنْته مِنْ الْيَمِين يَا رَسُول اللَّه ؟ ذَهَبَتْ وَرَبّ الْكَعْبَة أَرْضِي فَقَالَ النَّبِيّ y " مَنْ حَلَفَ عَلَى يَمِين كَاذِبَة لِيَقْتَطِع بِهَا مَال أَحَد لَقِيَ اللَّه عَزَّ وَجَلَّ وَهُوَ عَلَيْهِ غَضْبَان " قَالَ رَجَاء : وَتَلَا رَسُول اللَّه y " إِنَّ الَّذِينَ يَشْتَرُونَ بِعَهْدِ اللَّه وَأَيْمَانهمْ ثَمَنًا قَلِيلًا " فَقَالَ اِمْرُؤُ الْقِيس : مَاذَا لِمَنْ تَرَكَهَا يَا رَسُول اللَّه ؟ فَقَالَ " الْجَنَّة " قَالَ : فَاشْهَدْ أَنِّي قَدْ تَرَكْتهَا لَهُ كُلّهَا

وَإِنَّ مِنْهُمْ لَفَرِيقاً يَلْوُونَ أَلْسِنَتَهُم بِالْكِتَابِ لِتَحْسَبُوهُ مِنَ الْكِتَابِ وَمَا هُوَ مِنَ الْكِتَابِ وَيَقُولُونَ هُوَ مِنْ عِندِ اللّهِ وَمَا هُوَ مِنْ عِندِ اللّهِ وَيَقُولُونَ عَلَى اللّهِ الْكَذِبَ وَهُمْ يَعْلَمُونَ ﴿78﴾
78. และแท้จริงจากหมู่พวกเขานั้น มีกลุ่มหนึ่งบิดลิ้นของพวกเขา ในการอ่านคัมภีร์ เพื่อพวกเจ้าจะได้คิดว่ามันมาจากคัมภีร์ ทั้งๆ ที่มันมิได้มาจากคัมภีร์ และพวกเขากล่าวว่า มันมาจากที่อัลลอฮฺทั้งๆ ที่มันมิใช่มาจากอัลลอฮฺ และพวกเขากล่าวความเท็จให้แก่อัลลอฮฺ ทั้งๆ ที่พวกเขาก็รู้กันดีอยู่



معنى التحريف !

وَقَالَ مُجَاهِد وَالشَّعْبِيّ وَالْحَسَن وَقَتَادَة وَالرَّبِيع بْن أَنَس : " يَلْوُونَ أَلْسِنَتهمْ بِالْكِتَابِ " يُحَرِّفُونَهُ وَهَكَذَا رَوَى الْبُخَارِيّ عَنْ اِبْن عَبَّاس أَنَّهُمْ يُحَرِّفُونَ وَيُزِيلُونَ وَلَيْسَ أَحَد مِنْ خَلْق اللَّه يُزِيل لَفْظ كِتَاب مِنْ كُتُب اللَّه لَكِنَّهُمْ يُحَرِّفُونَهُ وَيَتَأَوَّلُونَهُ عَلَى غَيْر تَأْوِيله . وَقَالَ وَهْب بْن مُنَبِّه : إِنَّ التَّوْرَاة وَالْإِنْجِيل كَمَا أَنْزَلَهُمَا اللَّه تَعَالَى لَمْ يُغَيَّر مِنْهُمَا حَرْف وَلَكِنَّهُمْ يُضِلُّونَ بِالتَّحْرِيفِ وَالتَّأْوِيل وَكُتُب كَانُوا يَكْتُبُونَهَا مِنْ عِنْد أَنْفُسهمْ " وَيَقُولُونَ هُوَ مِنْ عِنْد اللَّه وَمَا هُوَ مِنْ عِنْد اللَّه " فَأَمَّا كُتُب اللَّه فَإِنَّهَا مَحْفُوظَة وَلَا تُحَوَّل رَوَاهُ اِبْن أَبِي حَاتِم فَإِنْ عَنَى وَهْب مَا بِأَيْدِيهِمْ مِنْ ذَلِكَ فَلَا شَكّ أَنَّهُ قَدْ دَخَلَهَا التَّبْدِيل وَالتَّحْرِيف وَالزِّيَادَة وَالنَّقْص . وَأَمَّا تَعْرِيب ذَلِكَ الْمُشَاهَد بِالْعَرَبِيَّةِ فَفِيهِ خَطَأ كَبِير وَزِيَادَات كَثِيرَة وَنُقْصَان وَوَهْم فَاحِش وَهُوَ مِنْ بَاب تَفْسِير الْمُعَرَّب الْمُعَبَّر وَفَهْم كَثِير مِنْهُمْ بَلْ أَكْثَرهمْ بَلْ جَمِيعهمْ فَاسِد وَأَمَّا إِنْ عَنَى كُتُب اللَّه الَّتِي هِيَ كُتُبه مِنْ عِنْده فَتِلْكَ كَمَا قَالَ مَحْفُوظَة لَمْ يَدْخُلهَا شَيْء .

هل وقع التحريف في التوراة والإنجيل في اللفظ أو المعنى أو في كليهما ؟

قد اختلف العلماء في هذه المسألة على أربعة أقوال :
1- أنها بدلت كلها.
2- أن التبديل وقع ولكن في معظمها .
3- أن التبديل وقع في اليسير منها ومعظمها باق على حاله ونصر هذا القول شيخ الإسلام ابن تيمية.
4- أن التبديل وقع في المعاني أي في شرح ألفاظها وليس في نفس اللفظ وقد نصره لبخاري في صحيحه .



วันที่ลงบทความ : 7 ต.ค. 51
ดาวน์โหลด : aliimron077.doc

ตัฟซีรอาลิอิมรอน 2 (51-100)



ดาวน์โหลดไฟล์บรรยาย 1




http://www.4shared.com/dir/dA_eJRY4/sharing.html
  • ตัฟซีรซูเราะตุนนิซาอฺ ครั้งที่ 34 (อายะฮฺ 61) - 7 มิ.ย.54
  • มุสลิมเป็นผู้ดูหมิ่นศาสนากระนั้นหรือ - 5 มิ.ย.54
  • ใครคือผู้ก่อการร้าย ? - 4 มิ.ย.54
  • บทบาทมุสลิมต่อผู้ดูหมิ่นอิสลาม (คุฏบะฮฺ) - 3 มิ.ย.54
  • ญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 95 หะดีษที่ 20 - 3 มิ.ย.54
  • การเลี้ยงอะกีเกาะฮฺตามแบบฉบับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม - 13 มี.ค.54

ต.ค.-ธ.ค.53


ไฟล์เสียง เม.ย.-มิ.ย.53
ไฟล์เสียง ม.ค.-มี.ค. 53
ไฟล์เสียงเก่า













เมษายน 2552
  • 2552-04-12 การนินทา (บ้านตานีพันธ์)



  • มีนาคม 2552
    1. 2552-03-03 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 103 (มัสญิดตึกดิน)
    2. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 4 มี.ค. 52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    3. 2552-03-05 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 29 (บ้านทองทา)
    4. 2552-03-06 คุตบะฮฺวันศุกร์ การบริหารเวลา (มัสยิดตึกดิน)
    5. 2552-03-06 ประวัติศอฮาบะฮฺ 12 - อุมัร (ทับช้าง)
    6. 2552-03-07 อัรเราะหฺมาน (ศิลปะวัฒนา)
    7. 2552-03-08 หนทางสู่ชัยชนะของประชาชาติอิสลาม (สันติชน)
    8. 2552-03-10 ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 104 (ตึกดิน)
    9. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 11 มี.ค. 52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    10. 2552-03-12 อธิบายอัลหะดีษจากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 30 (หะดีษที่ 6)
    11. 2552-03-14 คุตบะฮฺนิกาหฺ-ชะรีฟ-นูรียะฮฺ (ศูนย์กลาง)
    12. 2552-03-20 คุตบะฮฺวันศุกร์ - การเตาบัต (เนี้ยะมะตุ้ลลอฮฺ-ทุ่งครุ)
    13. 2552-03-24 ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 105 (ตึกดิน)
    14. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 25 มี.ค. 52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    15. 2552-03-26 เพื่อครอบครัวที่มั่นคง (มุศอลลาอัซซุนนะฮฺ)
    16. 2552-03-26 การทำอุมเราะฮฺ (บ้านทองทา)
    17. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 31 มี.ค.52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    กุมภาพันธ์ 2552
    1. 2552-02-01 ทำอย่างไรให้มุสลิมทำงานรับใช้ศาสนาอย่างต่อเนื่อง(บ้านครัว)
    2. 2552-02-01 ใครคือหะมาส - ประวัติฟิลัสฏีน 01 (สันติชน)
    1. 2552-02-03 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 97 (มัสญิดตึกดิน)
    2. 2552-02-06 คุตบะฮฺวันศุกร์ (มัสญิดตึกดิน)
    3. 2552-02-06 ประวัติศอฮาบะฮฺ 11 - อุมัร (ทับช้าง)
    4. รายการวิทยุอิสลามไทยแลนด์ 11 ก.พ. 52 (ข่าว-ตอบปัญหา)
    5. 2552-02-07 ยิว...ศัตรูตัวฉกาจของมุสลิม (ศิลปะวัฒนา)
    6. 2552-02-08 ประวัติฟิลัสฏีน 02 : ชัยชนะของมุสลิมที่ฆ็อซซะฮฺ (บ้านตานีพันธ์)
    1. 2552-02-09 ประท้วงเป็นบิดอะห์จริงหรือ (มรดก)
    2. 2552-02-10 ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 100-101 (ตึกดิน)
    3. 2552-02-12 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 26 (หะดีษ 6/2-บ้านทองทา)
    4. 2552-02-13 ยิว..แผนการล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ (มัสยิดชาฟีอีมาเรียม)
    5. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 18 ก.พ. 52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    6. วันญิฮาดครั้งที่ 15 "เมื่อยิวไม่หยุดยิง มุสลิมไทยจะทำอย่างไร" 22 ก.พ.
    7. รายการวิทยุอิสลามอินไทยแลนด์ 25 ก.พ. 52 (ข่าว,ตอบปัญหา)
    8. 2552-02-20 คุตบะฮฺวันศุกร์ - มุสลิมตุ๊กตา (เนี้ยะมะตุ้ลลอฮฺ-ทุ่งครุ)
    9. 2552-02-24 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 102-103 (มัสญิดตึกดิน)
    10. 2552-02-26 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 28 (บ้านทองทา)
    11. สัมมนาวิชาการ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา 28 ก.พ. 52

    เดือนมกราคม 2552
    1. 2552-01-04 อาวุธร้ายแรงที่อิรักของบุช (สันติชน)
    2. 2552-01-08 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 22 (หะดีษ 6/1-บ้านทองทา)
    3. 2552-01-09 คุตบะฮฺวันศุกร์-ภาษาอาหรับ (นานา)
    4. 2552-01-11 สถานการณ์ในฆ็อซซะฮฺ (คอยริสซุนนะห์)
    5. 2552-01-13 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 95 (ตึกดิน)
    6. 2552-01-15 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 23 (หะดีษ 6/1-บ้านทองทา)
    7. 2552-01-16 คุตบะฮฺวันศุกร์ สถานการณ์ฟิลัสฏีน(เนี้ยะมะตุ้ลลอฮฺ-ทุ่งครุ)
    8. 2551-01-18 ฆ็อซซะฮฺ (กระบี่)
    9. 2552-01-20 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 96 (ตึกดิน)
    10. 2552-01-27 ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน 97
    11. 2552-01-29 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 24 (หะดีษ 6/2-บ้านทองทา)




    เดือนพฤศจิกายน 2551

    1. 2551-11-16 คุฏบะตุนนิกาหฺ รุสลัน-อักลีมา (มรดก)
    2. 2551-11-07 คุฏบะตุลญุมุอะฮฺ - ความตายในอิสลาม (มัสญิดบ้านตึกดิน)
    3. 2551-11-22 โรงซ่อมอะกีดะฮฺ (ศิลปวัฒนา)
    4. 2551-11-09 เมื่อเขาหาเสียงด้วยเลือดมุสลิม (บ้านตานีพันธ์)
    5. 2551-11-07 ประวัติเศาะฮาบะฮฺ ครั้งที่ 9 (อุมัร) มัสญิดดารุนนะอีม
    6. 2551-11-23 อะกีดะตุสสลัฟ 34 โอวาทของบรรดาสลัฟ (มัสญิดเนียะมะตุ้ลลอฮฺ)


    เดือนตุลาคม 2551
    1. 2551-10-03 คุตบะฮฺวันศุกร์-คุณสมบัติของผู้นำ (มัสยิดบ้านตึกดิน) - 3.65 MB
    2. 2551-10-04 ผลที่ได้รับจากรอมฎอนที่ผ่านมา (ศิลปะวัฒนา) - 5.33 MB
    เดือนกันยายน 2551
    1. 2551-09-02 ก่อนละศีลอด 1 (ตอบคำถาม) - 7.1 MB - คำถาม
    2. 2551-09-04 ก่อนละศีลอด 2 (ตอบคำถาม) - 7.5 MB - คำถาม
    3. 2551-09-05 คุฏบะฮฺวันศุกร์ - รอมฎอน...เดือนแห่งอัลกุรอาน - 3.9 MB
    4. 2551-09-07 ก่อนละศีลอด 3 (ตอบคำถาม) - 6.7 MB - คำถาม
    5. 2551-09-09 ก่อนละศีลอด 4 (ตอบคำถาม) - 7.2 MB - คำถาม
    6. 2551-09-11 ก่อนละศีลอด 5 (ตอบคำถาม) - 6.5 MB - คำถาม
    7. 2551-09-14 ก่อนละศีลอด 6 (ตอบคำถาม) - 6.9 MB - คำถาม
    8. 2551-09-16 ก่อนละศีลอด 7 (ตอบคำถาม) - 7.3 MB - คำถาม
    9. 2551-09-18 ก่อนละศีลอด 8 (ตอบคำถาม) - 7.1 MB - คำถาม
    10. 2551-09-19 คุตบะฮฺวันศุกร์ (ทุ่งครุ) - 4.32 MB -
    11. 2551-09-21 ก่อนละศีลอด 9 (ตอบคำถาม) - 7.0 MB - คำถาม
    12. 2551-09-23 ก่อนละศีลอด 10 (ตอบคำถาม) - 7.2 MB
    13. 2551-09-25 ก่อนละศีลอด 11 (ตอบคำถาม) - 6.9 MB
    14. 2551-09-28 ก่อนละศีลอด 12 (ตอบคำถาม) - 7.7 MB - คำถาม
    15. 2551-09-30 คุตบะฮฺวันอีดิ้ลฟิตรฺ - 2.87 MB -

    เดือนสิงหาคม 2551
    1. 2551-08-01 คุฏบะฮฺวันศุกร์ - รอมฎอน...เดือนแห่งการปรับปรุง (มัสญิดบ้านตึกดิน) - 3.8 MB
    2. 2551-08-02 มุนาฟิกูน (ศิลปะวัฒนา) - 7.5 MB
    3. 2551-08-03 รอมฎอน เดือนแห่งอัลกุรอาน (สันติชน) - 14.1 MB
    4. 2551-08-05 ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 31 (70-74) - 10.7 MB
    5. 2551-08-06 บรรยายพิเศษ (วิทยาลัยพยาบาล นนทบุรี) - 12.3 MB
    6. 2551-08-07 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม 10 - 10.9 MB
    7. 2551-08-09 เตาบัต รหัสปลดบาป (สันติชน) - 19.6 MB
    8. 2551-08-10 ความรู้เกี่ยวกับการถือศีลอด (บ้านตานีพันธ์) - 14.1 MB
    9. 2551-08-13 ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 32 (70-74) - 12 MB
    10. 2551-08-14 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม 11 - 10.9 MB
    11. 2551-08-15 คุฏบะฮฺวันศุกร์ - 4.2 MB
    12. 2551-08-17 คุฏบะฮฺหลังละหมาดกุซุฟ - 1.6 MB
    13. 2551-08-17 ความรู้เกี่ยวกับการถือศีลอด (บ้าน ม.ซอลิฮีย์์) - 9.8 MB
    14. 2551-08-19 ตัฟซีรซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 33 (75-76) - 9.1 MB
    15. 2551-08-21 อธิบายอัลหะดีษ จากญามิอุลอุลูมวัลหิกัม 12 - 12.4 MB
    16. 2551-08-23 ก้าวสู่เดือนรอมฎอน (สันติชน) - 18.7 MB
    17. 2551-08-24 อะกีดะฮฺ 32 โอวาทของบรรดาสะลัฟ (ทุ่งครุ) - 18.1 MB



    (ญะซาหุมุลลอฮุค็อยร็อน ผู้จัดทำ)